DITTO สร้างสถิติใหม่ปี’64 ฟันกำไรสุทธิ 200 ล้านบาท กวาดรายได้กว่าพันล้าน บอร์ดใจป้ำจัดหนัก ผู้ถือหุ้นรับหลายเด้ง จ่ายหุ้นปันผล 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ พร้อมแจกวอร์แรนต์ 5 หุ้นต่อ 1 วอร์แรนต์ แถมจ่ายปันผลเงินสดอีก 0.111 บาท/หุ้น
วันที่ 1 มีนาคม 2565 นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) “DITTO” เปิดเผยว่า ในปี 2564 ดิทโต้ และบริษัทย่อย สร้างสถิติใหม่สามารถทำกำไรสุทธิ 200.7 ล้านบาท สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เพิ่มขึ้น 76% จากปีก่อนหน้า โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 1,090.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.2 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 11% จากปี 2563 ที่มีรายได้จากการขายและบริการ 986 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ ดิทโต้และบริษัทย่อย สามารถรักษาระดับการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการวางรากฐานในธุรกิจระบบบริหารจัดการเอกสาร (DMS) ประกอบกับในปี 2564 บริษัทได้ขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้บริการด้านรักษาความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ (Cyber Security) ซึ่งเป็นการป้องกันความปลอดภัยให้แก่ข้อมูลขององค์กร ทำให้มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 59 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% จากปีก่อน
ส่วนรายได้จากบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยี สำหรับโครงการของหน่วยราชการต่าง ๆ มีรายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยยังคงมุ่งเน้นขยายงานโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น โครงการท้องฟ้าจำลองและพิพิธภัณฑ์
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจให้เช่า จำหน่ายและบริการด้านเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ และสินค้าเทคโนโลยีอื่น ๆ โดยกลุ่มธุรกิจนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายและติดตั้งสินค้า Drive-thru ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากการปรับตัวของธุรกิจ Food Chain ในยุค New Normal ถือว่าเป็นดาวรุ่งในปัจจุบัน
นายฐกรกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น เป็นหุ้นสามัญในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ และเงินปันผลหุ้นละประมาณ 0.111 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 16 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 21 พฤษภาคม 2565
พร้อมแจกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วน 5 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวมีอายุ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิและมีราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 40 บาทต่อ 1 หุ้น โดยวอร์แรนต์ 1 หน่วยใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น เพื่อเป็นการเตรียมเข้าซื้อขาย SET ในอีก 3 ปีข้างหน้า
นายฐกรกล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าในปีนี้เรายังคงรักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ทั้งรายได้และผลกำไร เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในปีนี้น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี และเชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาคึกคักมากขึ้น
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance